ธนกร ออกมาย้ำนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศด้วยระบบ Test&Go ต้องเข้าประเทศก่อนวันที่ 10 ม.ค. หลังจากนั้นต้องเข้าแซนด์บ็อกซ์หรือกักตัว นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำทุกฝ่ายติดตามการเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดการติดเชื้อโควิด-19 และโควิดสายพันธุ์โอมิครอนหลังเทศกาลปีใหม่อย่างต่อเนื่องใกล้ชิดเพื่อเตรียมรับมือให้ทันกับสถานการณ์เนื่องจากขณะนี้พบมีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้ประเทศไทยต้องประกาศชะลอการเดินทางเข้าประเทศในระบบ Test & Go เพื่อประเมินสถานการณ์จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2565
อย่างไรก็ตามกรณีผู้เดินทางในระบบ Test & Go ที่ยังค้างอยู่ในระบบหากต้องการใช้สิทธิตามที่ลงทะเบียน
จะต้องเดินทางเข้ามาภายในวันที่ 10 มกราคม 2565 หลังจากนั้นหากบุคคลใดต้องการเข้ามาประเทศไทยจะต้องเข้าระบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) ที่ภูเก็ต หรือ ผ่านระบบกักตัว (Quarantine) เท่านั้น พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขตามที่ ศบค. และสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด และรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทันต่อเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังช่วยลดความรุนแรงหากติดเชื้อไวรัสโควิด และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงปีใหม่ ขอความร่วมมือประชาชนตรวจคัดกรองด้วย ATK และทำงานที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน
แต่หากต้องเริ่มปฏิบัติงานทันทีขอให้ตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน และในสัปดาห์แรกให้ตรวจ 2 ครั้งห่างกันอย่างน้อย 3 วัน พร้อมทั้งเฝ้าระวังอาการจนครบ 14 วัน และงดการรวมกลุ่มพูดคุย/รับประทานอาหาร หากเกิดการติดเชื้อในโรงงานไม่จำเป็นต้องปิดโรงงาน แต่ขอให้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อออกภายนอก
ครม. ไฟเขียว งบกลาง 65 2.1 พันล้านบาท ซ่อมถนนพังจากน้ำท่วม
คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำการอนุมัติ งบกลาง 65 ภายในวงเงิน 2,125 ล้านบาท โดยใช้งานในฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วม 17 จังหวัด – ถนน และเส้นทางหลวง
งบกลาง 65 – วันที่ 4 มกราคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,125.56 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยจำนวน 17 จังหวัด แบ่งเป็นในส่วนของกรมทางหลวงจำนวน 1,649.12 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท จำนวน 476.44 ล้านบาท
โดยกระทรวงคมนาคมรายงานว่า ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-12 ตุลาคม 2564 ได้เกิดอุทกภัยจากมรสุมที่พาดผ่านทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทำให้ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ ซึ่งทางกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและซ่อมแซมเส้นทางเพื่อให้การจราจรผ่านได้ในระยะเร่งด่วนแล้วจำนวน 663 รายการ ครอบคลุมพื้นที่ 31 จังหวัด วงเงินรวม 7,987.83 ล้านบาท
สำหรับงานบูรณะทางหลวงแผ่นดินและโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวงภายใต้งบกลางฯที่เสนอครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่
– ภาคเหนือ 3 จังหวัด คือ เชียงราย, เชียงใหม่ และลำปาง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัดคือ ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา และกาฬสินธุ์
ภาคกลาง 6 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร, นครสวรรค์, พระนครศรีอยุธยา,เพชรบูรณ์,ลพบุรี และสุโขทัย
ภาคตะวันตก 2 จังหวัดคือ กาญจนบุรีและตาก
ซึ่งเป็นงานซ่อมแซมบูรณะ เช่น งานก่อสร้างและซ่อมสะพาน งานแก้ไขและป้องกันดินสไลด์ งานฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ รวม 69 รายการ วงเงิน 1,649.12 ล้านบาท
ส่วนงานบูรณะทางหลวงชนบทและโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวงชนบทที่เสนอครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ภาคเหนือ 2 จังหวัด คือ เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัดคือ ชัยภูมิ ภาคกลาง 3 จังหวัด คือ นครสวรรค์, กำแพงเพชร และสุโขทัย และภาคใต้ 1 จังหวัดคือ ระนอง มีงานซ่อมฟื้นฟูสภาพทาง งานซ่อมฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ งานป้องกันการกัดเซาะโครงสร้างทางรวม 31 รายการ วงเงิน 476.44 ล้านบาท
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป